กระแสข่าวการพบปลาหมึกบลูริง หรือหมึกสายวงฟ้าที่ปะปนมากับหมึกที่เราทานกันปกติเริ่มมีมากขึ้น มีเสียงเตือนจากนักวิชาการและแพทย์ออกมาให้ระวังเพราะหมึกบลูริงมีพิษที่ร้ายแรงมาก วันนี้ทาง medtua.com เลยไปหาข้อมูลกี่ยวกับหมึกบลูริง ว่าทำไมถึงอันตรายและมีพิษรุนแรงมาก นักวิชาการด้านระบบนิเวศทางทะเลเผย หมึกสายวงฟ้า หรือหมึกบลูริง มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก
หมึกบลูริงนั้นพบได้ทั่วทะเลไทย อาศัยอยู่ตามพื้นท้องทะเล มีพิษลักษณะเดียวกับปลาปักเป้า ทำให้เป็นอัมพาต ระบบหายใจล้มเหลว คนทั่วไปแทบไม่มีโอกาสถูกกัด เพราะมันไม่เข้าท่าตื้น ย้ำไม่เคยได้ยินว่ามีใครโดนกัดในไทย
ข้อมูลของปลาหมึกบลูริง หรือหมึงสายวงน้ำเงิน
หมึกบลูริง หรือ หมึกสายวงน้ำเงิน (อังกฤษ: blue-ringed octopus) เป็นหมึกในสกุล Hapalochlaena ในอันดับหมึกยักษ์ จัดเป็นหมึกขนาดเล็กจำพวกหนึ่ง มีจุดเด่น คือสีสันตามลำตัวที่เป็นจุดวงกลมคล้ายแหวนสีน้ำเงินหรือสีม่วงซึ่งสามารถเรืองแสงได้เมื่อถูกคุกคาม ตัดพื้นลำตัวสีขาวหรือเขียว แลดูสวยงามมาก
แต่ทว่า หมึกสายวงน้ำเงินนั้นมีพิษที่ผสมอยู่ในน้ำลายที่มีความร้ายแรงมาก ซึ่งร้ายแรงกว่างูเห่าถึง 20 เท่า ผู้ที่ถูกกัดจะตายภายใน 2-3 นาที ทั้งสามารถฆ่าคนได้ 26 คนในคราวเดียว นับเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านระบบนิเวศทางทะเล และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat โดยให้ความรู้เกี่ยวกับ “บลูริง” หมึกเพชฌฆาต ไว้ดังนี้
- นี่คือหมึกสายวงฟ้า blue-ringed octopus เป็นหมึกทะเลที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก
- หมึกทะเลกลุ่มนี้มี 3 ชนิด (อีกชนิดยังเป็นที่สงสัย) ขนาดเล็ก ความยาวไม่เกิน 20 เซนติเมตร เจ้าตัวที่เห็นในภาพขนาดเต็มวัย ลักษณะเด่นคือวงสีฟ้าที่จะแสดงสีเข้มจัดในยามหมึกโกรธหรือต้องการป้องตัวเอง เช่น หมึกที่เห็นในภาพ
- หมึกสายวงฟ้าพบได้ทั่วทะเลไทย ส่วนใหญ่อยู่ตามพื้นท้องทะเล ติดมากับเรืออวนลาก ฯลฯ สำหรับหมึกสายวงฟ้าที่พบในแนวปะการัง เป็นชนิดที่ไม่พบหรือมีน้อยมากในเมืองไทย
- หมึกชนิดนี้จะกัดเพื่อปล่อยพิษเท่านั้น พิษเป็นลักษณะเดียวกับพิษปลาปักเป้า ทำให้เป็นอัมพาตและระบบหายใจล้มเหลว ไม่มียาแก้พิษ ต้องช่วยในลักษณะเดียวกับปลาปักเป้า นั่นคือช่วยหายใจและรักษาตามอาการ หากพ้น 24 ชั่วโมงได้ อาการจะดีขึ้นตามลำดับ
- หมึกชนิดนี้ไม่เหมือนแมงกะพรุนกล่อง โอกาสที่คนทั่วไปโดนกัดแทบไม่มีเลย หมึกไม่เข้าท่าตื้นมากัดคนเล่นน้ำ ไม่ไล่กัดนักดำน้ำ โอกาสโดนกัดคือเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงแล้วนำมาเล่น หรือตกได้แล้วไม่รู้จึงปลดเบ็ด (ไม่ค่อยติดเบ็ด) ไม่เคยได้ยินว่ามีใครโดนหมึกชนิดนี้กัดในประเทศไทย
- กรมประมงห้ามนำเข้าหมึกสายวงฟ้าเป็นสัตว์เลี้ยงมาระยะหนึ่งแล้ว (เคยเป็นข่าวเมื่อ 5-6 ปีก่อน) ปัจจุบัน ไม่ค่อยมีผู้นิยมเลี้ยงครับ
- คณะประมงเคยทำการศึกษาเรื่องนี้ รวมถึงนำหมึกมาเลี้ยงหลายตัว หมึกชอบออกหากินกลางคืน กลางวันแอบในเปลือกหอยหรืออะไรก็ได้ที่แอบได้ ตัวเมียเก็บไข่ไว้จำนวนหลายร้อยฟอง
- หมึกสายวงฟ้าตัวเล็กหรือตัวใหญ่ก็มีพิษทั้งนั้น อย่าไปยุ่งกับมันดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก
th.wikipedia.org
mgronline.com